ถาม-ตอบปัญหาธรรมะ

เก็บกู้

๑๕ มิ.ย. ๒๕๖๗

เก็บกู้

พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ถามตอบ ปัญหาธรรม วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๗

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

ถาม เรื่อง วิธีการภาวนาพุทโธ

กราบขอความกรุณาให้ท่านอธิบายวิธีการภาวนาพุทโธที่ถูกต้องค่ะ

ตอบ วิธีการภาวนาพุทโธ พุทโธคือพุทธานุสติ วิธีการคือวิธีการ เวลาหลวงตาท่านบอก ปฏิบัติพอเป็นพิธีๆ

วิธีการที่ถูกต้อง แต่คนปฏิบัติแล้วไม่ลงสมาธิเยอะแยะไป

พิธีการแล้วแต่ขาดตกบกพร่องบ้างไม่ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จิตใจเขาควรแก่การงาน จิตใจของเขาได้สร้างบุญสร้างกุศลมา มันก็ลงสู่สัมมาสมาธิได้ แล้วถ้าทำสู่สัมมาสมาธิได้แล้วฝึกหัดให้ชำนาญ เพราะส่วนใหญ่แล้วลงได้แค่ครั้งและสองครั้งแล้วทำอีกไม่ได้เลย ระลึกถึงคราวนั้น ทั้งชีวิตทำได้คราวเดียว

แต่ถ้ามันเป็นโดยวงกรรมฐานเวลาเป็นสัจจะเป็นความจริงของเรา เราบอก ส้มหล่นๆ คำว่า ส้มหล่น” เขาทำของเขาโดยความสมดุลและพอดีของเขามันก็เป็นสัจจะเป็นความจริงขึ้นมา

แต่วิธีการเขาก็ทำของเขา ทำแล้วทำเล่า ทำมาเป็นร้อยหนพันหนไม่เคยได้อย่างนั้นๆ

แต่เวลาครูบาอาจารย์ที่ท่านประพฤติปฏิบัติท่านหัดของท่านนะ พยายามทำของท่านให้จิตใจสงบ สงบเข้ามาแล้วมันชำนาญในวสี ชำนาญในวสีคือชำนาญในเหตุ การชำนาญในเหตุ เห็นไหม

เราขับรถไปมันมีทางแยก มีทางสามแยก มีทางสี่แยก มันถึงแล้วมันเป็นวงแหวน เวลาไปแล้วมันลดทาง จากสี่เลนเป็นสองเลน จากสองเลนขยายเป็นสี่เลน นี่เวลาเราขับรถไป เหมือนกัน เวลาปฏิบัติ จิตบางวันมันก็ดี บางวันมันก็ต่อต้าน บางวันมันก็นุ่มนวล บางวันมันก็ขัดแย้ง บางวันมันเดือดเป็นไฟเลย

แต่ถ้าครูบาอาจารย์ที่จิตใจของท่านชำนาญในวสี เราก็ชำนาญในวสีของเรา เห็นไหม ขับรถต้องมีสติควบคุมพวงมาลัยรถให้ดี เหยียบเบรกหรือเหยียบคันเร่งแล้วทำให้สมดุลพอดีระหว่างคนขับรถ รถ และถนนหนทาง และไฟสี่แยกจราจร สมดุลพอดีกันไป เห็นไหม

นี่พูดถึงว่า ขอความกรุณาให้ท่านอธิบายวิธีการภาวนาพุทโธที่ถูกต้อง

คำว่า ถูกต้อง” แล้วมันจะสมดุลพอดีใช่ไหม ถูกต้องแล้วมันจะลงสมาธิใช่ไหม

คนทำงานตามหน้าที่การงานเขาทำของเขาด้วยความสุจริต เขาทำของเขาด้วยความถูกต้องชอบธรรมทั้งนั้นน่ะ งานก็คืองาน เสร็จงานก็เสร็จงานไง แล้วถ้าทำงานแต่โดนเอกสารเท็จ เอกสารมันไม่สมบูรณ์แบบ เราทำไปแล้วถูกต้อง เราทำถูกต้อง เอกสารมาเท็จ เอกสารมาไม่ถูกต้อง

เราทำถูกต้อง แต่จิตของเรา กิเลสตัณหาความทะยานอยาก เวรกรรมของสัตว์มันร้อยแปดพันเก้า ฉะนั้น ฝึกหัดภาวนาพยายามทำของตนให้ถูกต้องชอบธรรม แล้วจิตมันจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้มันก็อยู่ที่อำนาจวาสนาไง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเป็นศาสดา เป็นพระอรหันต์ เวลาท่านเทศนาว่าการอยู่ในพระไตรปิฎกไง เราวาสนาน้อย เพราะเราอายุแปดสิบปี

วาสนาน้อย เป็นศาสดา เป็นพระพุทธเจ้า ตรัสรู้เองโดยชอบ ท่านบอกท่านวาสนาน้อย เพราะพระศรีอริยเมตไตรยจะมาตรัสรู้ในอนาคตกาล แปดหมื่นปีกับแปดสิบปี มันสร้างมาแตกต่างกัน สร้างมามากมายมหาศาล

ไอ้เราก็เหมือนกัน วิธีการที่ถูกต้องชอบธรรม ในทฤษฎีปริยัติชัดเจน แต่เราทำแล้วได้ไหม บางวันถูกต้องชอบธรรม ทำแล้วสบายใจ บางวันถูกต้องชอบธรรม ทำแล้วมันขัดแย้งมาก ถูกต้องชอบธรรมก็เป็นแค่พิธีไง ปฏิบัติพอเป็นพิธีไง จะเอาพิธีนั้นให้มันเป็นการปฏิบัติไง

พิธีคือปฏิบัติให้ได้ เอาพิธีนั้นมาเป็นหนทางในการประพฤติปฏิบัติ จิตมันจะสงบหรือมันไม่สงบอยู่ที่อำนาจวาสนาของตน

อำนาจวาสนาของตน เห็นไหม เวลาครูบาอาจารย์ของเราเวลาไปในสถานที่ใดไง ชอบสิ่งใด ทำสิ่งใด บางองค์ชอบในที่สงัด บางองค์ชอบในที่หวาดเสียว บางองค์ชอบ หลวงปู่ชอบชอบเสือ หลวงปู่ขาวชอบช้าง วาสนาของท่านไง มันอยู่ที่วาสนา อยู่ที่การกระทำมา

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบุพเพนิวาสานุสติญาณตั้งแต่พระเวสสันดรไป อนาคตกาล นี่เหมือนกัน อำนาจวาสนาของเราตั้งแต่อดีตชาติทำอะไรมา มีวาสนามากน้อยแค่ไหน ถ้ามันมีอำนาจวาสนาขึ้นมามันถูกไปหมดเลย มันลงกันๆ ถ้าไม่มีอำนาจวาสนาต่อกันนะ มันขัดแย้งกันไปหมดน่ะ แค่เดินก็เหม็นหน้าแล้ว แค่เห็นหน้ามันก็ไม่พอใจแล้ว นั่นน่ะถ้ามันขัดแย้งมา

เวลาขัดแย้งมา มันอยู่ที่จิตใต้สำนึก ไม่เคยรู้จักกันนะ ไม่เคยเห็นหน้ากันนะ เห็นครั้งแรก อู้ฮูมันจะฉีกจะกัดเขาน่ะ นี่ไง มันกรรมของสัตว์ๆ ไง นี่เหมือนกัน อำนาจวาสนาของคน

ฉะนั้นว่า กราบกรุณาให้ท่านอธิบายในการภาวนาที่ถูกต้อง

แหมตอนนี้อยากให้บอกวิธีการที่ถูกต้องเลย แต่เวลาอดีตอนาคตที่ทำมา ทำอะไรมาก็ไม่รู้ แล้วเวลาปัจจุบันนี้ต้องให้ถูกต้องนะ ต้องทำแล้วต้องให้ได้สมความปรารถนานะ แล้วกิเลสหยาบกิเลสละเอียดก็แตกต่างกัน

ฉะนั้น ฝึกหัดปฏิบัติ สิ่งที่ฝึกหัดปฏิบัติเป็นบุญกุศลที่สูงที่สุด สูงที่สุดเพราะอะไร เพราะเราดัดแปลงหัวใจของเรา เราสร้างบุญสร้างกุศลเพื่อหัวใจของเรา ถ้ามันติดขัดขัดข้องมาสิ่งใดก็จะมาแก้ไขกันในปัจจุบันนี้ๆ

ทีนี้ในปัจจุบันนี้ สิ่งที่เวลาในปัจจุบันนี้เราทำสิ่งใดแล้วเราจะให้มันสมความปรารถนาไปทั้งสิ้น แต่ที่มาล่ะ

เวลาเขาทำเซรามิก ดินแต่ละท้องถิ่น ดินในแต่ละพื้นที่ มันต้องแสวงหาดินที่สมดุลและพอดีที่เราจะทำสินค้าชนิดใด

หัวใจ หัวใจที่มันมาจากพื้นฐาน มันมาจากที่เราสร้างเวรสร้างกรรมมา แล้วเวลาในปัจจุบันนี้มีศรัทธามีความเชื่อแล้วก็จะต้องเป็นอย่างที่เราคิดเราปรารถนา มันจะเป็นไหมล่ะ ถ้ามันเป็น มันก็เป็นอำนาจวาสนาของตน

ทางสายกลางในพระพุทธศาสนาไม่อยู่ในกามสุขัลลิกานุโยค อัตตกิลมถานุโยค ไม่ตกไปสองฝ่ายทั้งถูกและผิด ทางสายกลางในพระพุทธศาสนาสมดุลและพอดีของมัน ชัดเจนของมัน ชัดเจนมาก

เพราะกึ่งกลางพระพุทธศาสนา ศาสนาจะเจริญอีกหนหนึ่ง หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านมาประพฤติปฏิบัติของท่านแล้วเป็นสัจจะเป็นความจริงในหัวใจของท่าน จบ

ถาม เรื่อง ความหลงเป็นเหตุ

กราบนมัสการหลวงพ่อ โยมใคร่ขอความกรุณาจากหลวงพ่อช่วยตอบคำถามเจ้าค่ะ เวลาที่โยมอยู่บ้านโยมจะดูทีวีและฟังเพลง รู้สึกว่าจะติดกับความบันเทิงเหล่านี้อย่างมากมาย เมื่อต้องกลับไปภาวนาที่วัด ทำให้เกิดสภาวะความขัดแย้งระหว่างสัญญาเก่าๆ กับปฏิบัติธรรม

เริ่มแรกของการกลับไปปฏิบัติยังไม่ขัดแย้งกัน แต่พอปฏิบัติไปสัก ๔๕ วันแล้วแอบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็รู้สึกได้ว่าใจมันสะเทือนใจ ร้องไห้มากมาย เสมือนว่าจิตใจมันต่อสู้กัน คือใจหนึ่งอยากดูโทรศัพท์ อีกใจไม่อยากดู ซึ่งในระยะแรกๆ ไม่มีสภาพแบบนี้เลย (คือดูโทรศัพท์ได้โยมก็เลยต้องมาภาวนาให้เข้มข้นมากขึ้น แต่รู้สึกว่าภาวนาไม่ค่อยดีก็เลยต้องหาธรรมะจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาช่วย ซึ่งก็ได้ธรรมจากหลวงตามาชโลมจิตใจ กิเลสมันก็ทับลงที่จิตที่ใจ เราก็ต้องเอาธรรมทับลงไปที่จิตที่ใจให้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

โยมจึงมีปัญหาอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า

การเป็นนักปฏิบัติที่ดีไม่สมควรจะต้องดูทีวีใช่ไหมเจ้าคะ

การสะเทือนใจจนร้องไห้มันผิดปกติไหมเจ้าคะ

ความหลงประเภทนี้ โยมควรจะแก้ไขด้วยวิธีการใดจึงจะถูกต้องเหมาะสม และควรพิจารณาธรรมเช่นใดเจ้าคะ

กราบขอบพระคุณ

ตอบ การเป็นนักปฏิบัติที่ดีไม่สมควรจะต้องดูทีวีใช่ไหมเจ้าคะ

อันนี้โดยข้อเท็จจริงเลย ศีล ๘ ศีล ๘ ห้ามดูการละเล่นฟ้อนรำ ห้ามทั้งสิ้น เพราะสิ่งนั้นมันเป็นเครื่องชักนำไปไง ถ้าศีล ๘ ศีล ๘ มันเป็นขอบเขตตั้งแต่ที่ศีลแล้วแหละ

ถ้าโยมอยู่บ้าน โยมจะดูทีวีจะดูช่องบันเทิง ดูสิ่งใดนั่นเป็นสิทธิของเรา เราเลือกของเราได้ แต่ถ้าคนที่เขาเป็นธรรมๆ นะ เขาก็ดูติดตามข่าวสารไง ข่าวสารว่าสิ่งใดมันเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ ให้เราทันโลกไง ไม่ใช่นักปฏิบัติแล้วมันเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีไม่รู้อะไรกับโลกเลย

รู้ดียิ่งกว่าเขาอีกน่ะ ครูบาอาจารย์รู้ล่วงหน้าด้วย รู้ว่าเหตุอะไรจะเกิดด้วย แต่ท่านไม่พูด พูดไปมันไม่เป็นประโยชน์กับใครไง แล้วถ้าพูดไปแล้วนะ มันทำให้วัดเดือดร้อนน่ะ ต่อไป โอ้โฮวัด คนฮือฮาเลยน่ะ โลกเขาชอบประเภทนั้นน่ะ แต่เรื่องอริยสัจ เรื่องทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ มันไม่สนใจกันเลย

ฉะนั้น เวลาสนใจๆ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สอนแบบนี้ สอนให้คนเท่าทันทุกข์ในหัวใจของคนแล้วแก้ไขแล้วระงับยับยั้งมัน แล้วถ้าทำลายมันได้ นั่นน่ะเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรารถนารื้อสัตว์ขนสัตว์ก็รื้อหัวใจของสัตว์โลก รื้อคนที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย นี่คือเป้าหมายของนักปฏิบัติไง ถ้าเอาจริงเอาจังขึ้นมามันก็ปฏิบัติของเขาให้เป็นประโยชน์ขึ้นมา

ฉะนั้น เราอยู่ทางโลกเราต้องเท่าทันข้อมูลข่าวสาร เราเท่าทันโลก เราไม่ใช่เป็นเหยื่อกับสังคมให้ใครมาจูงจมูก เป็นไปไม่ได้

ฉลาดกับตนเองนี่แหละมันยิ่งกว่าฉลาดกับโลกอีก

ฉลาดกับตนเอง ใครมาหลอกเราไม่ได้เลย

เราว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเป็นแก่นสารไง ใครพูดอะไรก็เชื่อ ใครชักจูงไปก็ไป นี่ไง กระต่ายตื่นตูมไง แต่ถ้าคนหายจากความเป็นกระต่ายตื่นตูมคือมีสติมีปัญญาเท่าทันตัวเราเอง นี่คือนักปฏิบัติ

ฉะนั้นว่า การเป็นนักปฏิบัติที่ดีไม่สมควรจะต้องดูทีวีใช่หรือไม่เจ้าคะ

มันไม่มีอยู่แล้วที่จะให้ดู จะให้ดูมันไม่มีให้ดูอยู่แล้ว แล้วถ้ามันเป็นโทรศัพท์ เดี๋ยวนี้มันเป็นสิทธิเสรีภาพของคน จะไปห้ามปราม มันเป็นเรื่องปิดกั้นไม่ได้ไง ข้อมูลข่าวสารปิดไม่ได้เลย เมื่อก่อนควบคุมสื่อได้ เดี๋ยวนี้สื่อนี่ โอ้โฮมันร้อยแปดพันเก้า ควบคุมไม่ได้หรอก ถ้าควบคุมไม่ได้มันก็ต้องมาควบคุมที่ใจเรานี้

ถ้าควบคุมที่ใจเรานี้ เห็นโทษหรือยังล่ะ นี่ร้องไห้ฟูมฟายเลยน่ะ เห็นโทษไหม มันเป็นของที่ดีใช่ไหม เป็นของที่ดี ร้องไห้ฟูมฟายทำไม แล้วสิ่งที่ร้องไห้ฟูมฟายอยากดูเขา ดูแล้วได้อะไร

เพราะสิ่งนั้นมันเป็นคอนเทนต์ต่างๆ เขาต้องทำขึ้นมาแล้วเขาถึงมาออก เรื่องมันผ่านไปตั้งกี่วันแล้ว เรื่องมันผ่านไปจนเรื่องมันไม่มีเรื่องแล้วเราเพิ่งมาได้ลมพัดใบไม้ไหว มาเห็นเข้าแล้วตื่นเต้น น้ำหูน้ำตาไหล แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้เลย เป็นกระต่ายตื่นตูมไง

มีสติปัญญาเท่านี้มันก็จบ มันจบแล้ว จบเพราะปัญญาเราเท่าทัน ถ้าปัญญาไม่เท่าทัน เหตุการณ์ต่างๆ มันเกิดผ่านไปหมดแล้ว สิ่งที่มันจะมาให้เราเห็นมันจบไปแล้ว เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเขาถึงไปเก็บข้อมูลบันทึกเป็นข่าว

กว่าจะรู้ข่าวเมื่อก่อนสมัยล่าอาณานิคม เส้นทางการเดินเรือ เหตุเกิดทวีปหนึ่ง อีก ๖ เดือนอีกทวีปหนึ่งถึงรู้ กว่าเรือจะเดินไปถึง เดี๋ยวนี้มันเกิดที่ไหน ดวงจันทร์ยังเห็นเลย ยานอวกาศลงดวงจันทร์มันยังเห็นเลย

เดี๋ยวนี้มันทันกันหมดไง นี่ไง โลกเจริญๆ ไง แต่กิเลสมันยิ่งใหญ่ มันเหยียบย่ำทำลายหัวใจของคน แล้วเราก็เป็นเหยื่อ ดูมันจนเป็นเหยื่อ พอมาปฏิบัติจะไประงับมันน่ะ ร้องไห้เชียว ร้องไห้ฟูมฟายเชียว

นี่พูดถึงข้อที่ ๑ถ้าเป็นนักปฏิบัติที่ดีไม่สมควรที่จะต้องดูทีวีใช่หรือไม่เจ้าคะ

ใช้สติใช้ปัญญาตรึกมันก็จบแล้ว เราจะเป็นคนใช่ไหม เป็นคน เป็นอริยทรัพย์ เป็นมนุษย์มีสติมีปัญญา ไปเชื่อไอ้ตู้ไอ้จอเล็กๆ น่ะ ไอ้จอแค่นี้แม่งหลอกเราได้ เฮ้ยเอ็งเป็นคนอะไรวะ เอ็งให้แค่จอนี่นะบงการชีวิตมึงได้ โอ้โฮโง่มาก

การสะเทือนใจร้องไห้มันเป็นความปกติไหมเจ้าคะ

ความร้องไห้มันเป็นคุณนะ เป็นคุณที่ว่าเรามีสติสัมปชัญญะ เรารู้ได้ว่าเราผิด นี่มันเป็นคุณ เป็นคุณที่มันได้ทดสอบกันไง

เวลาอยู่ที่บ้านเวลาดูแล้วมันชื่นบานมันมีความสุขไง เวลาระงับ เราเลิก แล้วมาปฏิบัติที่วัดไม่มี เวลาเอามาดู เห็นแล้วมันสะเทือนใจ เห็นไหม ระหว่างความจริงกับความเท็จ ระหว่างปัจจุบันกับอดีตอนาคต ระหว่างที่เราเลือกถูกและผิด มันเผชิญหน้ากัน

ยังดี ยังสำนึกว่าถูกหรือผิด คำว่า ถูกหรือผิด” ไง นี่คือเหตุไง ไอ้นี่คือเหตุ คือวิธีการ คือสิ่งที่ป้อนเข้ามาที่ใจนี้ ใจนี้เป็นธรรมชาติ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พุทธะ แล้วจะป้อนอะไรมันเข้าไป

อยู่บ้านก็ป้อนแต่สิ่งที่เป็นความบันเทิง เป็นข่าว โอ้โฮมันก็ฟูไปกับเขา แฟบไปกับเขา สนุกไปกับเขา ครึกครื้นไปกับเขา มันก็ตื่นเต้นไปกับเขา มันก็ทุกข์โศกไปกับเขา เวลามาปฏิบัติที่วัด ปิดหมดเลย เลิก ไม่ดู พุทโธๆๆ จิตอยู่หรือไม่อยู่

ถ้าจิตมันอยู่มันเห็นความแตกต่างระหว่างมีศีลกับทุศีล ระหว่างอยู่วัดกับอยู่บ้าน แล้วตัวใจนี้ตัวเป็นกลาง เป็นกลางว่าจะป้อนอะไรให้มัน จะป้อนสิ่งบันเทิงให้มัน มันก็สุขสบาย มันก็พอใจ มาอยู่วัดมาเข้มงวด มางดเว้นมาระงับเพื่อหัวใจของตน มันเห็นแล้ว เห็นไหม สิ่งนี้เป็นข้อเท็จจริง เพราะอะไร

พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะในปัจจุบันนี้เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนถึงทาน ศีล ภาวนา

เรามาฝึกหัดภาวนาๆ ฝึกหัดภาวนามันมีกรอบของมัน มันมีข้อวัตรปฏิบัติของมัน เวลาทำข้อวัตรปฏิบัติขึ้นไปนะ ต้องทำอย่างนี้

แล้วระลึกถึงเวลาอยู่บ้านล่ะ ระหว่างอยู่บ้านปล่อยปละละเลยให้มันไปตามกระแสโลก เวลามาอยู่วัด มันเป็นธรรม ระหว่างกิเลสกับธรรมมันปะทะกัน ร้องไห้เลย กูจะอยู่ตรงไหนดีวะ ระหว่างบ้านกับวัดจะไปไหนดี หันรีหันขวางเลย ร้องไห้เชียว ร้องไห้ น้ำตาอย่างนี้น้ำตาของกิเลส

แต่เวลาหลวงตาพระมหาบัวท่านสิ้นกิเลส น้ำตาไหลพรั่งพรู น้ำตาที่ชำระภพชาติมีค่า

น้ำตาที่เกิดมาแล้วร่ำไห้อยู่นี่อย่างกับน้ำทะเลเลย มันไม่มีค่า มันเป็นเรื่องของวัฏฏะ ฉะนั้น การสะเทือนใจร้องไห้นี้มันผิดปกติไหมเจ้าคะ

ดี ยังระลึกได้ ลองถ้ามันไม่ผิดปกติสิ สะบัดก้นเลย กลับบ้านดีกว่า นอนห้องแอร์สบาย ไปอยู่วัดยุงกัดแทบตาย

ระหว่างบ้านกับวัดให้พิจารณาเพื่อเป็นธรรม ถ้าใจมันเป็นธรรมมันเห็นแล้วมันเข้าใจได้ ถ้าใจเป็นโลกมันก็สะบัดก้นกลับบ้าน อยู่บ้านดีกว่า ไปทรมานเกือบตาย

แต่ถ้าใจมันเป็นธรรมนะ อยู่บ้าน สัตว์โลกทั้งวัฏฏะนี้ก็เวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ เกิดมาทับถมตายซ้อนกันทับกัน จิตดวงเดียวเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะเกิดมานั่งกองกระดูกของตน เกิดมานั่งทับซากศพของตนที่เคยเกิดภพชาติต่างๆ มันสะเทือนใจ เห็นไหม

มีสติมีปัญญา ถ้ามันคิดของมันไง ใจมันเป็นประเสริฐ ใจมันคิดได้มันก็แสวงหาของมัน นี่ไง คนมีบุญและมีบาป นี่พูดถึงว่าถ้ามันเป็นสัจจะเป็นความจริงไง จบ

ความหลงประเภทนี้ โยมควรจะแก้ไขด้วยวิธีการใดเจ้าคะจึงจะเหมาะสม หรือพิจารณาธรรมข้อใดเจ้าคะ

มีสติแล้วก็พิจารณาของเรา ถ้ามีสติพิจารณาของเรามันก็จบไง แล้วก็จบ

ถาม เรื่อง ดูความว่างของจิตเดิมแท้

การเดินมรรคขั้นบรรลุพระอรหันต์ มีผู้สอนธรรมสอนให้ดูสภาวะของจิตเดิมแท้ (ชำเลืองดูดูให้เห็นความนิ่งโล่งว่างโดยไม่ต้องดูไตรลักษณ์หรือต้นเหตุปฏิจจสมุปบาท

มีเพื่อนบางคนเดินมรรคแบบนี้แล้วบอก สภาวะจิตระเบิด ไร้ตัวตน เป็นพระอรหันต์แล้ว แต่กิเลสหยาบละเอียดและอวิชชา เช่น ความเห็นแก่ตัวยังมีอยู่ (ผู้สอนมรรคบอกว่า อวิชชามันหัวระเบิดแล้ว ไม่มีเชื้อเกิด ให้มาทบทวนกิเลสเอา มาขัดเกลาเอาตามหลัง แต่รับรองไม่ต้องเกิดแล้วถ้าสิ้นอายุขัยคือมีความลังเลสงสัยว่า มรรคแบบนี้เป็นทางเดินตามพระสัทธรรมของพระพุทธเจ้าหรือพ่อแม่ครูบาอาจารย์หรือไม่คะ

เนื่องจากได้รับการรับรู้มาว่า ผู้ปฏิบัติธรรมหลายๆ คนเดินเส้นทางนี้แล้วผลคือจิตระเบิด จิตระเบิดกันแต่จิตไม่จ้าถึงสามแดนโลกธาตุแบบหลวงตาพระมหาบัวเมื่อท่านบรรลุธรรมขั้นสุดท้าย (มีความห่วงใยเพื่อนผู้ปฏิบัติว่าจะหลงทางหรือไม่กราบเมตตาหลวงพ่อช่วยชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ

ตอบ เตะลูกอีกแล้วนะ มันเป็นเรื่องไร้สาระ

สุภัททะ สุภัททะไปถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไงว่า ศาสนาไหนก็ดี ศาสนาไหนก็ประเสริฐไง ตอนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะปรินิพพานไง

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า สุภัททะ เธออย่าถามให้มากไปเลย ศาสนาไหนไม่มีมรรค ศาสนานั้นไม่มีผล” ฉะนั้น ให้พระอานนท์บวชให้แล้วเทศนาว่าการอบรมบ่มเพาะจนคืนนั้นสุภัททะเป็นพระอรหันต์ขึ้นมาเลย

ศาสนาไหนไม่มีมรรค ศาสนานั้นไม่มีผล การปฏิบัติไม่มีมรรคไม่มีผล ไอ้นี่บอกว่า ไม่ต้องปฏิบัติ แค่เห็นไตรลักษณ์ ไม่ต้องไปปฏิบัติตามอริยสัจ

ไอ้นี่มันนอกศาสนาเลยนะเนี่ย การเดินมรรคของพระอรหันต์สิ่งที่ว่า ให้ดูนิ่งดูว่าง ให้ชำเลืองดู

ดูตรงๆ มันยังไม่เห็นนะ ให้ชำเลืองดู ตั้งใจปฏิบัติเกือบตายมันยังไม่รู้ไม่เห็นเลย แล้วนี่แค่ชำเลืองดู ปฏิบัติตรงๆ มันยังหลงน่ะ แล้วชำเลืองมันจะไปไหน มันก็ออกทะเลน่ะสิ

เวลาว่า ไม่ต้องมีไตรลักษณ์ด้วย เวลาประพฤติปฏิบัติไปนะ จิตมันเกิดระเบิด ไร้ตัวตน เป็นพระอรหันต์แล้ว

อีโอดี ไอ้หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ไอ้นี่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเป็นอาจารย์พระอรหันต์

ไอ้ของเราอยู่บ้านนะ เวลาทำครัว แก๊สปิดไม่สนิทนะ เวลาระเบิด ระเบิดหมดเลย เวลาเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้มันจนเก่าแก่ ไม่รู้จักแก้ไขรักษา ไฟฟ้าลัดวงจร เวลาไฟฟ้าลัดวงจรมันเผาไหม้หมดนะ บ้านเรือนเท่าไร ทรัพย์สินหามาเก็บไว้ในบ้าน มันลัดวงจร มันเผาหมดน่ะ

เวลากิเลสมันลัดวงจร เวลามันไม่เข้าสู่อริยสัจ ไม่เข้าสู่ความจริง เอาความจริงมาจากไหน

นี่จิตระเบิดเลย นอนหลับตื่นขึ้นมาระเบิดตูม

ต้องแจ้งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ตายกี่คน บาดเจ็บเท่าไร ทรัพย์สินเสียหายไหม แล้วสิ่งใดที่เกิดขึ้นมันเกี่ยวอะไรกับการปฏิบัติ มันเกี่ยวอะไรกับกิเลส มันมีอยู่ในพระพุทธศาสนาหรือไม่ มันไม่เห็นมี แล้วไปเชื่อได้อย่างไร

อ้าวสิทธิมนุษยชนจะเลือกนับถืออะไรก็ได้ มันเป็นวาสนาของผู้เชื่อผู้ฟังไง พวกเหยื่อไง ที่ไหนมีศรัทธา ที่นั่นมีเหยื่อ ที่ไหนมีเหยื่อ ที่นั่นมีนักล่า นักล่าทั้งหลายก็อ้างพระพุทธศาสนา แล้วพระพุทธศาสนาสอนอะไร

ที่มันเจ็บปวดก็ไม่ต้องดูไตรลักษณ์นี่ พระไตรลักษณ์ ลักษณะไง ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ นิโรธดับทุกข์ ขณะมันไม่มี ไม่ต้องดูมัน ไม่ต้องไปเห็นมัน มันระเบิดตูม

เวลาท่อน้ำเสียเวลาถ้ามันหมักหมมขึ้นมา ไอ้แก๊สไข่เน่ามันก็ระเบิดตูม ไม่ต้องทำอะไรหรอก ของเสียของเน่ามันไปหมักหมมกันเกิดแก๊สมันก็ระเบิด

ระเบิดอะไร มันเป็นเรื่องไร้สาระ

ถ้ามันเป็นเรื่องความเชื่อมันก็เป็นเรื่องของเขา เรื่องความเชื่อ คนมักง่าย ที่ไหนมีศรัทธา ที่นั่นมีเหยื่อ ที่ไหนมีเหยื่อ ที่นั่นมีนักล่า ไอ้พวกนักล่ามันสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว แล้วไม่มีตัวตน แล้วรับประกันว่ามันไม่กลับมาเกิด

ตายไปแล้วค่อยรับประกันไง นี่ไง ประกันที่มีปัญหา โควิดยังไม่จ่ายเขาเลย ไอ้นี่รับประกันเลย ตายไปแล้วไม่เกิด

อ้าวก็ตายไปแล้วใครจะไปเช็กล่ะ จะเอาผู้ตรวจสอบที่ไหน คนตายไปแล้ว ยืนยันอย่างไรว่าไอ้นี่เกิดหรือไม่เกิด ก็มันตาย มันต้องพิสูจน์ได้สิ

พูดอะไรก็แล้วแต่นะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แล้วไม่ต้องพิสูจน์ เพราะมันระเบิดแล้ว มันเป็นพระอรหันต์แล้ว แล้วค่อยไปแก้เอากิเลสหยาบๆ

โอ้โฮเวรกรรม หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดนะ เป็นผู้ตรวจสอบ เป็นผู้ควบคุมเลยล่ะ ของเรามันไม่ใช่ ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ทุกข์ดับ วิธีการดับทุกข์ มันทุกข์จริงๆ นะ เหตุมันอยู่ที่ไหน ระเบิด อะไรระเบิด

แก๊สไข่เน่า น้ำเสีย สิ่งของเสียมันหมักหมมกันมันก็ระเบิด มันระเบิดด้วยตัวมันเองด้วย พอระเบิดตูมเลยล่ะ เกิดจากแก๊สที่ของเสียมันหมักหมมกัน หมักหมมจนสะสมถึงกำลังมันก็ระเบิด แค่นั้นน่ะ แค่นั้นนะ แค่นี้นะเป็นพระอรหันต์

เวลาแก๊สไข่เน่าระเบิด ใครเป็นพระอรหันต์วะ เออเวลาแก๊สไข่เน่ามันระเบิด ใครเป็นพระอรหันต์ อวกาศเป็นใช่ไหม โลกนี้เป็นใช่ไหม เพราะแก๊สไข่เน่ามันระเบิด แล้วก็ไปแก้ไขเอา กิเลสหยาบๆ ค่อยไปแก้ไขเอาทีหลัง เพราะมันไม่มีเชื้อแล้ว เพราะอวิชชามันระเบิดแล้ว

สร้างมุกกันขึ้นมา ใครคิดมุกอะไรก็เอามาเสนอในท้องตลาด ที่ไหนมีศรัทธา ที่นั่นมีเหยื่อ ที่ไหนมีเหยื่อ ที่นั่นมีนักล่า แล้วล่าได้แล้ว แล้วสัตว์โลกล่ะ

มันน่าเศร้า มันน่าเศร้า ชีวิตของคนไง

เอาหัวใจของเราไว้ในใจของเรานี้ กาลามสูตร ห้ามเชื่อ ห้ามเชื่อเด็ดขาด

เขาบอกเลยนะ มันเป็นห่วงไง เป็นห่วงว่ามีนักปฏิบัติหลายคนไปปฏิบัติแล้วจิตระเบิด ระเบิดแล้วมันไม่เหมือนหลวงตา

หลวงตาระเบิดที่ไหน เวลาปฏิบัติขั้นแรกสู้กับเวทนาเกือบเป็นเกือบตาย ไปหาหลวงปู่มั่นไง เวลามันชนะไง ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ ขันธ์ ๕ ไม่ใช่ทุกข์ ทุกข์ก็ไม่ใช่ขันธ์ ๕ เวลาสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาสมันขาดไป หลวงปู่มั่นว่า เออมันต้องอย่างนี้สิวะ

เวลาพิจารณานั่งตลอดรุ่ง ระหว่างธาตุ ๔ เวลามันละลายไป นี่เป็นไตรลักษณ์

ไม่ต้องไปดูมัน เพราะเอ็งไม่เคยเห็น เอ็งไม่รู้มัน เอ็งทำไม่ได้ไง

เวลามันขาด กามราคะปฏิบัติอ่อนลง เวลาเป็นอสุภะไง อสุภะเป็นไตรลักษณ์ไง เวลาไตรลักษณะมันพิจารณาของมันไป มันเป็นมหาสติ มหาปัญญาไง เวลามันขาด โลกนี้ราบหมด เวลาอสุภะขาด กามราคะปฏิฆะจบเลย แล้วอวิชชาอยู่ไหน

นี่ไง อวิชชามันระเบิดตูมเลย แก๊สไข่เน่าระเบิดเลย แล้วเขียนชื่ออวิชชาไปแปะไว้ที่แก๊สไข่เน่า แก๊สไข่เน่าเขียนชื่อเลย อวิชชา’ ระเบิดตูมเป็นพระอรหันต์เลย

โฮ้มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระสุดๆ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระธรรมดานะ มันเป็นเรื่องไร้สาระที่สุดๆ แล้วมนุษย์เป็นเหยื่อ ที่ไหนมีศรัทธา ที่นั่นมีเหยื่อ ที่ไหนมีเหยื่อ ที่นั่นมีนักล่า

เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นธรรม ๑๐๓.๒๕ ก็ยังอยู่ ๑๐๓.๒๕ เทศน์ทุกคืนเลย แล้วคำเทศน์กับการปฏิบัติของเรามันเข้ากันได้ไหม

เวลาคำเทศน์กับปฏิบัตินะ ถ้าเราปฏิบัติได้เหตุได้ผลกับคำเทศน์นั้น สาธุ กราบแล้วกราบเล่าๆ ถ้ามันสะเทือนใจจนน้ำตาไหลนะ นี่แหละอย่างนี้เป็นธรรม แต่ถ้าเราฟัง ๑๐๓.๒๕ แต่เราปฏิบัติยังไม่ถึง เราก็มีวิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส เรามีนิวรณธรรม กิเลสหยาบๆ ไง

เวลาแก๊สไข่เน่าระเบิดตูม อวิชชาระเบิดตูม สิ้นกิเลสแล้ว แล้วก็ไปแก้เอากิเลสหยาบๆ

นิวรณธรรม ไอ้เรื่องความลังเล ความสงสัย เขาทำพื้นฐานเขาตั้งแต่ต้น ถ้ายังมีนิวรณธรรม ทำสมาธิไม่ได้

รูป รส กลิ่น เสียงเป็นบ่วงของมาร เป็นพวงดอกไม้แห่งมาร ก็นิวรณธรรม ๕ นี่แหละ ง่วงเหงาหาวนอน นี่ไง ลังเลสงสัย ลูบๆ คลำๆ นิวรณธรรมไง เขากำจัดนิวรณธรรม จิตถึงตั้งมั่น จิตถึงมีกำลัง จิตถึงเริ่มออกฝึกหัดใช้ปัญญา แล้วใช้ปัญญาเป็นภาวนามยปัญญา

ไม่ใช่อวิชชาระเบิดตูม กิเลสตายหมด เป็นพระอรหันต์เลย หันไปหาเหยื่อ หลอกลวงเหยื่อ พยายามขวนขวายล้วงกระเป๋าเหยื่อ แล้วเอานิพพานไป เอาอรหันต์ไป เอาผลประโยชน์มา

เศร้า เศร้าเพราะว่า ครูบาอาจารย์ กึ่งกลางพระพุทธศาสนา ศาสนาจะเจริญอีกหนหนึ่ง เจริญขึ้นมาด้วยหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงตาพระมหาบัวท่านยืนยันว่า หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นเป็นโรงงานผลิตพระอรหันต์

พระอรหันต์แต่ละองค์ฝึกหัดปฏิบัติมา ธรรมะอยู่ฟากตาย เอาความเป็นความตายที่กิเลสมันหวงแหนเข้าไปเผชิญหน้ากับมัน แล้วเห็นตามเป็นจริงมันสำรอก มันคาย มันขาด มันตาย ยถาภูตัง เกิดญาณทัสสนะ เกิดความเห็นที่ถูกต้องชอบธรรม การกระทำที่เป็นธรรมๆ มีอยู่

แต่การกระทำ การกระทำของกิเลสตัณหาความทะยานอยากของมาร ของโลก ของความประพฤติแบบเหลวไหลมันเป็นเรื่องโลก เพราะอะไร

เพราะคนที่ปฏิบัติอยากมักง่าย อยากปฏิบัติง่ายๆ อยากได้ผล อยากให้คนเชิดชู แล้วเขาก็สร้างกลุ่มสร้างก้อนขึ้นมาเชิดชูกันเป็นอุปาทานหมู่ ระเบิดตูม เป็นพระอรหันต์เลย แล้วค่อยไปแก้กิเลสหยาบๆ

หน่วยบรรเทาสาธารณภัย หน่วยบรรเทาภัยเขาเป็นการยืนยันว่าใครเป็นพระอรหันต์หรือไม่เป็นพระอรหันต์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์หายไปไหน รัตนตรัยของเราหายไปไหน สัจจะความจริงในพระพุทธศาสนาหายไปไหน

ให้หน่วยอีโอดีมันเป็นคนคอยชี้บอกว่า ใครระเบิดตูม ระเบิดด้วยความชอบธรรม ไม่ใช่การก่อการร้าย ถ้าเป็นการก่อการดี ก่อการดีคือระเบิดตูม เศร้า เอวัง